โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง แต่ละพรรคออกมาหาเสียงทำคะแนนเพิ่ม กันอย่างคึกคัก ขณะที่ศึกการต่อสู้เพื่อชิงคะแนนเสียง
ล่าสุด นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน ออกมามองเกมศึกการเลือกตั้งในช่วงโค้งสุด โดยเฉพาะกับพรรคใหญ่ อย่างเพื่อไทย และ ก้าวไกล ที่ช่วงหลังนี้เห็นจะมีการพูดพาดพิงกันมาอย่างดุเดือด หลังจากที่คะแนนเสียงเริ่มเททางมาพรรคก้าวไกลมากขึ้น ซึ่งผลโพลบางสำนักระบุว่าคะแนนเสียงของพรรคก้าวไกล ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 แซงหน้า พรรคเพื่อไทยไปแล้ว
โดยนายจตุพร บอกว่า คู่แข่งที่แท้จริงของพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคภูมิใจไทย แต่คู่แข่งตัวจริงของพรรคเพื่อไทยคือ พรรคก้าวไกล และพรรคไทยสร้างไทย
ชัดเจนว่า คนที่จะหยุดแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทย คือ พรรคก้าวไกล พรรคของ 2 ลุง ไม่มีโอกาสที่จะหยุดแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทยได้ อุปสรรคขวางหนามที่ใหญ่ของเพื่อไทยในวันนี้ก็คือพรรคก้าวไกล
เลือกตั้ง 2566 : "เพื่อไทย" เคาะประตูบ้าน ปรับกลยุทธ์หาเสียงใหม่จากการแบ่งเขตเลือกตั้ง
เลือกตั้ง 2566 : จตุพร ลั่น ก้าวไกลคือคู่แข่งตัวจริงของเพื่อไทย
เลือกตั้ง 2566 : ซูเปอร์โพล ชี้ “ก้าวไกล”ความนิยมนำลิ่ว ทิ้งห่าง “เพื่อไทย”
ส่วนเรื่องการจับมือจัดตั้งรัฐบาลระหว่างพรรคเพื่อไทย และ พรรคก้าวไกลนั้น เชื่อว่าหากพรรคเพื่อไทยเลือกได้ จะไม่เลือกพรรคก้าวไกลมาเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เพราะเคยพูดแล้วว่าจะตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ส่วนตัวมองว่าเพราะพรรคก้าวไกล เป็นพรรคที่จะสามารถขึ้นมาแทนพรรคเพื่อไทยได้ไม่ยาก ถือเป็นหอกข้างแคร่ หากจะรวมกันตั้งรัฐบาลได้ มีทางเดียวคือไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว เช่น ถ้ามีให้เลือก ระหว่าง พลังประชารัฐ กับ ก้าวไกล เชื่อว่าจะร่วมกับพลังประชารัฐมากกว่า
นายจตุพร ยังบอกอีกว่า จุดแข็งของพรรคก้าวไกล คือไม่เคยเป็นรัฐบาลมาก่อน จึงไม่มีเรื่องทุจริต คอรัปชั่น ไม่มีเรื่องว่าทำสำเร็จ หรือไม่สำเร็จ ดังนั้นพื้นที่การหาเสียงของพรรคก้าวไกล จึงกว้างกว่าทุกพรรค ซึ่งจะต่างจากพรรคเพื่อไทย ที่ต้องตอบคำถามทุกเรื่อง มีทั้งประเด็นเรื่องความสำเร็จ และการทุจริต คอรัปชั่น ทางการเมืองพรรคก้าวไกลจึงหาเสียงง่ายกว่า เพราะยังไม่เคยทำอะไรเลยคำพูดจาก เว็บสล็อต777
อย่างไรพรรคก้าวไกล คืออนาคตพรรคการเมืองที่จะมาแทนที่พรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว นี่คือโลกแห่งความเป็นจริง และเชื่อว่าคนในพรรคเพื่อไทยต้องมาสำแดงอะไรบางอย่างนั้น มันคือตลาดเดียวกัน มันคือคนที่รสนิยมใกล้เคียงกัน เพราะฉะนั้นก้าวไกลคืออนาคต ส่วนพรรคเพื่อไทยคืออดีตและปัจจุบัน พรรคก้าวไกลเห็นปัจจุบันและเห็นอนาคต
นายจตุพร ยังพูดถึงบทบาทของกกต. กับการเลือกตั้งในครั้งนี้ ว่า อยากให้กกต.ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ในการทำหน้าที่ครั้งสุดท้ายของกกต.ชุดนี้ ควรจะทำความดีให้ปรากฎกับประเทศชาติ กกต.ชุดแรกของประเทศไทยเขาประกาศเลยว่าจะไม่ให้คนชั่วเหยียบบันไดสภา ถ้าคนชั่วเหยียบบันไดสภาได้ ก็เหยียบบันไดทำเนียบได้ เหยียบทุกกระทรวงได้ เหยียบหัวประชาชนได้ เหยียบประเทศไทยได้ ฉะนั้น กกต.ต้องทำตามเนื้อผ้าโดยไม่ต้องดูว่าเป็นใคร เป็นพรรคในซีกอนุรักษ์ หรือ ซีกเสรีนิยม ใครผิดก็ว่าไปตามกฎหมาย ซึ่งถ้าจุดเริ่มต้นของการเลือกตั้งบริสุทธิ์และโปร่งใส